วันพฤหัสบดีที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

retell-26 : ใบลาออกจากความทุกข์ (อ่านแล้วดีมากเลย)

ใบลาออกจากความทุกข์

ไม่สำคัญว่า . . . มีทรัพย์มากหรือน้อย
แต่สิ่งสำคัญ คือ . . . ต้องใช้ให้น้อยต่างหาก
. . . . . . ชีวิตจึงจะมีเหลือมากกว่าขาด

. . . คนจนยิ่งจน . . . เพราะทำรวย
. . . คนรวยยิ่งรวย . . . เพราะทำจน
. . . . . . ทำตัวให้เป็นปกติ . . . ใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็น
. . . . . . ชีวิตก็จะเป็นปกติ . . .

. . . ไม่ยินดีในสิ่งที่ตนได้ . . .
. . . ไม่พอใจในสิ่งที่ตนมี . . .
. . . เป็นคนอาภัพอับโชคที่สุดในโลก . . .
. . . ยินดีในสิ่งที่ตนได้ . . .
. . . พอใจในสิ่งที่ตนมี . . .
. . . เป็นคนโชคดีที่สุดในโลก . . .

วันจันทร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

retell-25 : แง่คิดดีๆ จากชายชราผู้จากไป โดย พิษณุ นิลกลัด

เป็นบทความดีๆ ที่ผมได้รับต่อๆ กันมาจากอินเตอร์เน็ตครับ และคนที่ส่งให้ผมคือ Somchai Vesvitool ครับ ขอให้ความรู้สึกๆ ดีๆ ที่เกิดขึ้นส่งผลบุญกับเจ้าของบทความ และผู้ที่ส่งต่อๆ กันมานะครับ

แง่คิดดีๆ จากชายชราผู้จากไป
โดย พิษณุ นิลกลัด

สัปดาห์สุดท้ายของปี 2548 ผมไปงานสวดและงานเผาศพผู้ชายวัย 81 ปีที่ผมรู้จักเขามา ยาวนาน 30 ปี ไม่ใช่ญาติ แต่สนิทนักรักใคร่เสมือนญาติก่อนเสียชีวิตไม่กี่วันเขาสั่งลูกและภรรยาแบบคนไม่ครั่นคร้ามความตายว่าสวดสามวันแล้วเผา

ไม่ต้องบอกใครให้วุ่นวาย อย่าเศร้า อย่าร้องไห้ ทุกคนต้องมีวันนี้เพียงแต่เขาอยู่หัวแถวเลยต้องไปก่อนแล้วลูกเมียก็ทำตามคำสั่ง สวดสามวันเผางานสวด 3 คืนมีคนฟังพระสวดคืนละ 14 คน คือเมีย ลูก หลาน เขย สะใภ้ และผมซึ่งเป็นคนนอก

...อ่านต่อ.....

retell-24 : รูปหายากที่นักเรียนไทยในเมืองนอกหามาฝากคนไทย

"เอาของเขามาเล่า" ในบทความนี้ เป็นบทความที่ถ้าเพื่อนๆ ได้อ่านแล้ว น่าจะรู้สึกยินดี ปลาบปลื้มไปกับนักเรียนไทยที่พยายามหาภาพถ่ายมาแน่ๆ ครับ คราวนี้คงไม่มี reference เนื่องจากได้รับเป็นอีเมล์มาครับ

รูปภาพหายาก...หาไม่มีในประเทศไทยภาพเหล่านี้ถูกค้นพบโดยนักเรียนไทยในประเทศอเมริกาที่หอสมุดใหญ่ในรัฐหนึ่งในประเทศอเมริกาโดยบรรณารักษ์ในหอสมุดแห่งนั้นได้หยิบกล่องลายหินใบหนึ่งขึ้นมาให้โดยที่กล่องใบนั้นได้มีชื่อว่า' Siam Box 'นักเรียนไทยคนนั้นจึงได้เปิดดูและได้พบรูปเหล่านี้เขาจึงได้ยืมนำรูปเหล่านี้ไปถ่ายเป็นสำเนาและได้ส่งเป็นe-mail มาในประเทศไทยและได้Forwardต่อมาเรื่อย ๆ .... ถ้าได้รับแล้วกรุณา Forwardต่อไปเยอะ ๆ เลยนะ เพราะว่าภาพเหล่านี้ถือได้ว่าเป็นภาพที่หลงเหลืออยู่เท่านั้นจริงๆ และเป็นภาพความประทับใจและน่าภาคภูมิใจของคนไทยมากๆ เมื่อได้รับ Mailนี้แล้วอาจจะเปลืองเนื้อที่ของคุณ แต่คุณสามารถ Sav eภาพเหล่านี้ไว้ใน Comหรืออะไรก็ได้ของคุณ แล้วก็ Delete mailนี้ทิ้งไปซะ แต่คุณอย่าลืมนะว่าก่อที่คุณจะDeleteนั้น คุณจะต้อง Forwardไปให้เพื่อน ๆ ของคุณให้ได้มาก ๆ ที่สุดเสียก่อนนะเพราะว่าคุณจะต้องแบ่งภาพที่หายากอย่างนี้ให้เพื่อนๆ คุณได้ชื่นชมบ้าง...

ขอพระองค์ทรงพระเจริญ


retell-23 : "ไม่มีรางวัล สำหรับคนขี้เกียจ"

"เอาของเขามาเล่า" ในบทความนี้ เป็นบทความที่คล้ายนิทาน สั้นๆ ที่ถ้าเพื่อนๆ ได้อ่านแล้ว น่าจะได้ข้อคิดบ้างไม่มากก็น้อยครับ คราวนี้คงไม่มี reference เพราะว่าเซฟหน้าบทความ เนื่องจากได้รับเป็นอีเมล์มาครับ

“ไม่มีรางวัล สำหรับคนขี้เกียจ”

กาลครั้งหนึ่งมีแม่ไก่สีแดงตัวน้อยตัวหนึ่ง ผู้ซึ่งคุ้ยเขี่ยอยู่ในลานข้าวจนกระทั่งเจอเมล็ดข้าวสาลี มันร้องเรียกสัตว์ตัวอื่นๆ มาและพูดว่า “ถ้าเราปลูกเมล็ดข้าวสาลีนี้ เราก็จะมีขนมปังไว้กินกัน ใครจะช่วยฉันปลูกมันบ้าง”

“ฉันไม่” วัวตอบ
“ฉันไม่” เป็ดตอบ
“ฉันไม่” หมูตอบ
“ฉันไม่” ห่านตอบ

.....อ่านต่อ.....

re-tell-22 : อีกไม่เกิน3เดือนวัดพระบาท น้ำพุต้องปิดลง

อีกไม่เกิน3เดือนวัดพระบาท น้ำพุต้องปิดลง!!ถ้าไม่อ่าน กรุณา Forward ต่อ ด้วยครับ> ถ้าไม่ช่วย อีกไม่เกิน 3 เดือนวัดพระบาทน้ำพุต้องปิดลง !!!

> ทุกคนคงเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับ วัดพระบาทน้ำพุจังหวัดลพบุรี
> ที่มี หลวงพ่ออลงกต เป็นเจ้าอาวาส
> ซึ่งท่านได้อุทิศตัวช่วยเหลือ ผู้ป่วยโรคเอดส์และเด็กกำพร้ามา สิบกว่าปี แล้ว
> ทั้งๆที่ท่านมีพร้อมทุกอย่าง จบการศึกษาระดับปริญญาโทด้านวิศวกรจากออสเตรเลีย
> แต่ท่านก็เสียสละได้ เพียงเพราะ ...... ท่านเห็นว่ ผู้ป่วย โรคเอดส์นั้นไร้ที่พึ่งจริงๆ
> ขนาดบางคน พอพ่อแม่ รู้ว่าติดเชื้อเอดส์ ยังรังเกียจและ ทอดทิ้งลูกของตัวเองได้เลย
> หลวงพ่อท่านเห็นว่า ถ้าท่านไม่ช่วยพวกเขาเหล่านี้ ท่านก็ไม่สามารถเรียกตัวเองว่าเป็นมนุษย์ได้
> ทุกวันนี้ที่วัดมีผู้ป่วยและเด็กกำพร้า ที่หลวงพ่อต้องคอยดูแล รวมถึงพนักงานและอาสาสมัครราวหนึ่งพันคน
> ค่าใช้จ่ายต่อเดือน ประมาณสามล้านกว่าบาท แต่ยอดบริจาคกลับน้อยลง เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา
> เห็นว่า..... ลดลงเหลือเพียงเดือนละ สองแสนบาท เอง

.....อ่านต่อ.....

re-tell 21 : บทความซึ้งดีนะ

ช่วยอ่านให้จบนะครับแล้วเลือกว่าจะทำอย่างไหน

ในวันสุดท้ายก่อนวันคริสต์มาส ฉันรีบไปยังซุปเปอร์มาร์เก็ต เพื่อซื้อของขวั­ญที่ฉันไม่ได้ซื้อไว้แต่เนิ่นๆ เมื่อฉันเห็นผู้คนทั้งหมดที่นั่น ฉันก็เริ่มบ่นกับตัวเอง ฉันคงต้องเสียเวลาเป็นชาติที่นี่แน่ๆ ฉันควรไปที่อื่นดีกว่า คริสต์มาสนี่ทำให้รู้สึกแออัดและน่ารำคาญ­ขึ้นทุกๆปีจริงๆ

สิ่งที่ฉันอยากจะทำคือเอนตัวลงนอนแล้วก็หลับไปและตื่นขึ้นมาเมื่อเวลานี้ผ่านพ้นไปแล้วจริงๆ แต่ถึงยังไงฉันก็ยังไปที่แผนกของเล่น และฉันก็เริ่มหัวเสียเกี่ยวกับราคาของมันและแปลกใจว่า เด็กๆเนี่ยเล่นของเล่นที่แพงขนาดนี้เชียวหรือ

ขณะที่กำลังเดินดูของอยู่ในแผนกของเล่นนั้น ฉันสังเกตเห็นเด็กผู้ชายตัวเล็กๆคนหนึ่ง อายุประมาณ 5 ขวบ กำลังอุ้มตุ๊กตาไว้แนบกับอก เขาค่อยๆลูบผมของตุ๊กตานั้นและมองดูอย่างเศร้าสร้อย

ฉันสงสัยว่าเด็กผู้ชายคนนี้จะเอาตุ๊กตาไปให้ใครกัน

เด็กผู้ชายคนนั้นหันไปหาห­ญิงชราที่อยู่ข้างๆ

"คุณย่าแน่ใจหรือฮะว่าเงินของผมมีไม่พอ"

ห­ญิงชราตอบว่า "หลานก็รู้นี่ว่าหลานมีเงินไม่พอที่จะซื้อตุ๊กตาตัวนี้หรอ"'

หลังจากนั้นห­ญิงชราก็บอกให้เขารออยู่ตรงนั้นประมาณ 5 นาทีระหว่างที่เธอจะไปเดินดูรอบๆ แล้วเธอก็จากไปอย่างรวดเร็ว

เด็กชายยังคงอุ้มตุ๊กตาอยู่ในมือ

ในที่สุดฉันก็เริ่มเดินเข้าไปหาเขา

.....อ่านต่อ.....